วันเสาร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2553

Cosmetic Surgery Diaries - Why I chose DRT Clinic?

หลายคนเห็นหน้านีนี่แล้วอย่าเพิ่งตกใจจนไม่กล้าไปฝากเนื้อฝากตัวให้คุณหมอธนยศอัพความสวยให้นะคะ ต้องบอกว่าเคสของนีนี่ที่มันอืด บวมขนาดนี้เพราะได้ทำหลายอย่างในวันเดียว คือแก้ไขจมูก ตัดปีก ทำตา 2 ชั้น อีกอย่างเคสจมูกที่ต้องแก้ยังไงก้อต้องบวมมากอยู่แล้ว

จากที่ได้ข้อมูลมาทั้งจากคุณหมอ พี่กุ้งและพี่ๆ เพื่อนๆจากเว็บบอร์ดได้บอกว่าคนไข้ของคุณหมอต้องทำใจเรื่องความบวมไว้เลย เพราะคุณหมอจะเสริมซิลิโคนไว้ใต้เนื้อ แนบชิดกับกระดูกมากๆ ไม่เหมือนกันกับที่อื่นที่จะเสริมไว้แค่ใต้ผิวหนังซึ่งจะทำให้ความบวมมีน้อยมากเพราะไม่ต้องเลาะเยอะเหมือนกับของคุณหมอธนยศ ซึ่งวิธีของคุณหมอธนยศนั้นจะมีผลดีในระยะยาวคือซิลิโคนจะเป็นเนื้อเดียวกับจมูกไปเลย มองดูจะไม่เห็นรอยซิลิโคนแน่อน (อันนี้เด่วต้องรอดูเพื่อพิสูจน์จากของตัวเอง) แต่จากประสบการณ์ที่ทำมา 2 ครั้งกว่าจะนอนตะแคงได้เป็นเดือนเลยค่ะ เพราะนอนตะแคงแล้วจะรู้สึกได้ถึงซิลิโคนที่เหมือนจะไหลลง ความรู้สึกมันจะแบบอื๊ดๆอยู่ในจมูกอ่ะค่ะ  แต่ของคุณหมอธนยศวันที่ 2 ที่ไม่สบายก้อขอนอนตะแคงเลยค่ะเพราะเตียงรพ.มันนอนไม่สบายตัว พอนอนแล้วก้อไม่รู้สึกอะไรเลยค่ะเหมือนไม่มีอะไรอยู่ในจมูก (ของเค้าแจ๋วจริงๆ)
ส่วนรูปทรงจมูกจากที่เห็นมาชอบสไตล์ปลายจมูกของคุณหมอโดยส่วนตัวค่ะ เหมือนคุณหมอทำ signature ไว้ที่จมูกของคนไข้เลย หุหุ แบบเห็นแล้วรู้เลยว่าเนี่ยแหละฝีมือของคุณหมอธนยศ ....

และสำหรับการทำตา 2 ชั้นนั้นตัวนีนี่เองไม่ได้ตั้งโจทย์ไว้ในใจว่าอยากได้แบบไหน แต่จะปรึกษาเรื่องสมดุลของชั้นตา แนวการเปิดปิด รอยแผล และการหลับตาว่าจะหลับได้สนิทมั๊ย
โดยส่วนตัว (อีกแระ) ถึงไม่กังวลว่าไม่มีแบบไปให้ดูแล้วจะทำออกมาไม่ถูกใจ เพราะคุณหมอเหมือนดีไซเนอร์ออกแบบแฟชั่นที่มิลานเลย (เวอร์ไปม่ะ) คุณหมอดูความเหมาะสมของสรีระโครงหน้าได้เป๊ะดีค่ะเลยไว้ใจ แล้วคุณหมอก้อปราณีตมากๆ ใจเย็นใช้เวลาทำค่อนข้างนาน ก่อนเข้าห้องผ่าตัดคุณหมอก้อจะเอารูปด้านข้างของเรามาวาดให้ดูแบบที่จะออกมา ซึ่งเราก้อจะพอรู้ผลคราวๆของทรงที่จะออกได้ให้ใจไม่ตื่นเต้นต้องคอยลุ้นว่าจะออกมาเป็นแบบไหนอะไรยังไง .....

เท่าที่อ่านมาจากรีวิวของหลายๆคนที่กลัวไม่อยากให้หน้าบวม กลัวหน้าบวม นอยย์ที่หน้าบวม บลาๆๆๆ อยากบอกว่าอดทนซักนิดเถอะค่ะ กำลังจะสวยขึ้นอยู่ไม่กี่วันข้างหน้าไปตลอดชีวิตแล้ว แระแค่ช่วงเวลาสั้นๆ ไม่กี่วัน ไม่กี่สัปดาห์ ที่จะปล่อยให้เราอยู่กับสภาพหน้าอืดๆยังงั้นแค่นี้จะยอมไม่ได้กันเชียวเหรอคะ แหมมม จริงๆแล้วน่าตื่นเต้นดีออกนะคะ เพราะเกิดมาเราจะหน้าตาอืด บวมๆ ได้ซักกี่ครั้งกันเชียวนะ โดยเหตุมาจากที่เราตั้งใจทำให้มันเป็นเองไม่ได้เป็นเพราะเกิดอุบัติเหตุกระทันหันอันนั้นถ้านอยย์มันก้อต้องเป็นธรรมชาติของอีกอารมณ์นึงนะ

การทำศัลยกรรมน่ะยังไงก้อต้องดูสวยขึ้นอยู่แล้วไม่ว่าจะมากหรือจะน้อยอันนี้ก้อต้องขึ้นกับปัจจัยหลายๆอย่างด้วย เช่นโครงหน้าเดิมของเรา ลักษณะส่วนประกอบของแต่ละอย่างบนใบหน้า ตา จมูก ปาก แก้ม มีสัดส่วนที่สมดุลขนาดไหน บางคนทำอย่างเดียวก้อสวยได้ แต่บางคนอาจจะต้องทำเยอะหน่อย อันนั้นก้อขึ้นอยู่กับความพอใจส่วนตัวของเราด้วยนะ แล้วส่วนคนที่อยากทำศัลยกรรมแล้วบอกว่าอยากทำแต่กลัวเจ็บ ฮึ่มมมมม ไอ่เจ็บอ่ะมันก้อเจ็บอยู่บ้างแต่เชื่อว่ามันอยู่ในขอบเขตที่ทุกคนทนได้อยู่แล้วแหละค่ะ และความเจ็บอันนี้มันเกิดมาจากการที่เราตั้งใจทำให้มันเกิด เพราะฉะนั้นตัวเราเองสามารถเตรียมตัว เตรียมใจรับมือกับมันได้อยู่แล้วแหละค่ะ อย่างที่บอกว่ามันไม่ใช่เรื่องที่เกิดกระทันหันแบบโดนอุบัติเหตุรถชนแขนขาหักอะไรอย่างนั้น อยากทำๆๆๆแต่กลัวว ขอบอกค่ะว่าเป็นริดซี่น่ะ เจ็บกว่าทรมานกว่าเยอะจ้า .......

บางคนที่เอาต้นแบบที่อยากได้ไปให้คุณหมอดู ก้อต้องดูต้นแบบหลายๆส่วนด้ายนะคะ เช่นโครงหน้าเราคล้ายเค้ามั๊ย พื้นฐานกระดูก เนื้อหนังจมูกเรามากหรือน้อยอะไรแบบเนี้ย ไม่ใช่ว่าเราหน้าสั้นแค่คืบแต่เอาแบบที่หน้าเรียวยาวเฟอร์เฟคไปแล้วบอกว่านู๋จะเอาจมูกของคนนี้ค่ะ อืมมม อันนั้นก้อนะ .... ศึกษาพื้นฐานความเป็นไปได้ก่อนนิดนึง จะให้หมอทำแค่จมูกแต่จะให้หน้าออกมาเหมือนต้นแบบยังงั้นหมอคงโวยวายในใจไปหลายตลบแหละ ฮึ่มมมม ......

สมัยนี้คุณหมอเก่งๆมีให้เราเลือกเยอะแยะ ลองหาข้อมูลเยอะๆในเว็บต่างๆเด๋วนี้คนก้อออกมาให้ข้อมูลและรีวิววผลงานของคุณหมอกันมากขึ้น ยังไงก้อขอให้ทุกคนที่คิดจะทำศัลยกรรมโชคดีในการเลือกคุณหมอนะคะ     

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น